94VFM 94VFM Author
Title: ตีตั๋วชนโรง: ขุนบันลือ ฮาคักๆ สไตล์พี่หม่ำรับปีใหม่!
Author: 94VFM
Rating 5 of 5 Des:
“ขุนบันลือ”  หนังไทยตลกพีเรียด ที่กำกับและนำแสดงโดยพี่  “หม่ำ” เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ซึ่งการเป็นหนังตลกสิ้นปี ถือว่าเหนื่อยพอสมควรเลย ที่ต...


“ขุนบันลือ” หนังไทยตลกพีเรียด ที่กำกับและนำแสดงโดยพี่ “หม่ำ” เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลาซึ่งการเป็นหนังตลกสิ้นปี ถือว่าเหนื่อยพอสมควรเลย ที่ต้องเข้าโรงฉายแข่งกับหนังฮอลลีวูดและหนังลุ้นรางวัลต่างๆ ที่ทยอยเข้าฉายอย่างหนักหน่วงในช่วงนี้ ซึ่งตัวหนังเองก็มีวิธีการนำเสนอที่น่าสนใจ กับผสมผสานเรื่องราวที่อิงกับเรื่องจริงของพี่หม่ำลงไป ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนดูที่เป็นแฟนพี่หม่ำโดยเฉพาะ

เรื่องราวขุนบันลือ ที่วางไว้ในสมัย ร.ศ.123 (พ.ศ. 2447) เมื่อ ขุนบันลือ ได้รับมอบหมายให้ไปราชการที่เมืองเชียงราย แต่ขุนบันลือเองกลับกังวลใจ เพราะถูก มด ทาสหญิงที่ขุนบันลือแอบมีความสัมพันธ์ด้วย จับได้ว่าท่านขุนแอบมีเมียน้อยที่เมืองเชียงราย เรื่องราววุ่นๆ เลยเกิดขึ้น 

หนังมีความซ้อนทับกันระหว่างเรื่องราวในหนังและความเป็นจริง กับประเด็น “หม่ำมีเมียน้อยที่เชียงราย” ซึ่งเคยเป็นข่าวลือที่มีมานานและได้รับการเปิดเผยว่ามีมูลความจริง! ซึ่งในหนังก็นำประเด็นนี้มาขยี้ ทั้งการวางพล็อตเรื่องและลูกเล่นทางตลก ก็วิธีการนำเสนอแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันคล้ายๆ กับ “การล้อเลียนสังคม” ซึ่งจะนำสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมจนเป็นกระแสมาเล่น ซึ่งมักจะเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนได้รับรู้หรือมีประสบการณ์ร่วมกัน 
แต่ในขุนบันลือ มันคือ “การล้อเลียนบุคคล” ซึ่งเป็นวิธีการที่ต้องพึ่งพาความโด่งดังความเป็นที่นิยมของมหาชนของบุคคลนั้นๆ มากพอสมควร คนดูพอถึงจะรู้เรื่องหรือเข้าใจและ “ขำ” หรือ “ตลก” กับฉากต่างๆ ในหนังได้ หรือง่ายๆ คนที่จะอินก็คือแฟนพี่หม่ำเท่านั้น แต่หากเป็นคนที่ไม่ได้เป็นแฟนหรือไม่ได้ตามข่าวพี่หม่ำ การใช้วิธีนี้ก็จะให้ผลในทางตรงกันข้าม เพราะไม่รู้ว่าในแต่ละฉากตัวละครต่างๆ ในเรื่องกำลังขยี้อะไรอยู่ ไม่อิน และกลายเป็นความรู้สึกไม่ดีต่อหนังไปเลย
อาจเพราะเป็นกลุ่มคนแบบหลัง ความตลกของขุนบันลือเลยลดลงไปพอสมควร ซึ่งนอกเหนือจากนี้ ก็ไม่รู้สึกว่าพี่หม่ำจะปล่อยของอะไรออกมาอีก ยังดีที่หนังได้ตลกคนอื่นๆ ในเรื่องอย่าง สายสิน, อรชร เชิญยิ้ม, โรเบิร์ต สายควัน รวมไปถึงนักแสดงสมทบอย่าง สุนารี ราชสีมา และ เอกชัย ศรีวิชัย มาช่วยไว้
ขุนบันลือ เหมือนเป็นการให้พื้นที่กับตลกเบอร์รองๆ ได้มีบทบาท (รวมถึงลูกพี่หม่ำเองด้วย) แม้แต่ละคนจะไม่ได้มีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ในฉากที่ต้องปล่อยของนักแสดงตลกแต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี โดยมีรุ่นใหญ่อย่างพี่หม่ำช่วยประคับประคอง ซึ่งในภาพรวม ก็ฮาพอได้ การแซว คำหยาบ เรื่องทางเพศ ทั้งหมดยังถูกนำมาใช้? ซึ่งส่วนตัวมองว่ามันสร้างสรรค์น้อยไปในแง่ของความเป็นภาพยนตร์ ที่น่าจะมีอะไรมากกว่าที่พบเจอได้ทั่วไปตามรายการตลกในทีวี
จริงๆ แล้วการวางพล็อตเรื่องให้อยู่ในช่วง ร.ศ.123 ทำให้ ขุนบันลือ เอื้อมากๆ ที่จะเป็นหนังตลกอิงประวัติศาสตร์ เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของสยามในยุคนั้น ทั้งการเลิกทาส การต่อสู้ทางการทูตกับต่างชาติที่มาหาผลประโยชน์ในสยาม หรือแม้กระทั่งการต่อสู้ในวงการราชการ ซึ่งหนังก็ถูกใช้อย่างทิ้งขว้าง และไปลงเอยในแบบที่เป็นอย่างน่าเสียดาย
แต่หากคิดเสียว่า นี่คือหนังตลกนะ หนังหม่ำนะ จะเอาอะไร? งั้นก็ต้องบอกว่า “ขุนบันลือ” คือหนังที่เหมาะกับคนที่ชอบตลกสายพี่หม่ำเท่านั้นที่จะอิน...
ชา ตีตั๋วชนโรง
Twitter: @Chamanz13
ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/1456650

Advertisement

 
Top